เจ้าของกิจการในมาเลเซียเร่งลงทุนพัฒนาเว็บท่าในความพยายามที่จะไล่ตามการขยายตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

รายงานของ "อีมาร์เก็ตเตอร์" ระบุว่า การทำธุรกิจแบบบีทูซี หรือบิสซิเนส ทู คอนซูมเมอร์ ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซทั่วโลก มีแนวโน้มที่จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 20.1% ในปีนี้ โดยคาดว่า การเติบโตส่วนใหญ่จะได้อานิสงส์จากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของผู้ใช้ออนไลน์ในตลาดเกิดใหม่ และกิจกรรมเอ็มคอมเมิร์ซ หรือการซื้อขายของบนมือถือที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือไปจากระบบการขนส่งสินค้า และชำระเงินที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น และมีให้เลือกหลายช่องทาง

กลุ่มบริษัทไอทีมาเลเซีย ที่เร่งลงทุนในเรื่องเว็บท่า และแอพบนมือถือ รวมถึง ไดโน มีเดีย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และดูเรียน ทรี มีเดีย จากรัฐปีนัง

ไดโน มีเดีย ลงทุนไปแล้วราว 500,000 ริงกิต เพื่อพัฒนา "มายฮีโร" แอพชุมชนบนมือถือ ส่วนดูเรียน ทรี ทุ่มงบราว 200,000 ริงกิต เพื่อสร้างเว็บท่าแห่งใหม่จำนวนหนึ่ง รวมถึง คีท โฮเฉียก และโฮ กังเตา ซึ่งมีความหมายว่า ยอดเยี่ยม อร่อย และราคาดี

ผู้ก่อตั้งบริษัททั้ง 2 แห่งนี้ ต่างมีประสบการณ์ในการพัฒนาแอพมือถือ ให้กับอุปกรณ์อัจฉริยะ จากค่ายแอ๊ปเปิ้ล ภายใต้โครงการที่เปิดรับจากนักพัฒนาทั่วโลกเมื่อปี 2554

รายงานบอกด้วยว่า สิ่งที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ตเชื่อมทุกสิ่ง" หรือไอโอที ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บอีคอมเมิร์ซได้ง่ายขึ้น และแอพมือถือในปัจจุบัน ก็ไม่ได้จำกัดการใช้งานได้เฉพาะบนสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะสวมใส่ได้แบบต่างๆ อย่าง แว่นตา นาฬิกา และสายรัดข้อมือ ความก้าวหน้าที่ช่วยหนุนการใช้งานอีบิสซิเนสได้อย่างมาก

นายออง ฮู เบง ผู้บริหารระดับสูงของดูเรียนทรี กล่าวว่า บริษัทของเขาได้ร่วมกับ อินสแตนท์สโตร์ บริษัทไอทีในออสเตรเลีย พัฒนาช่องทางการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือ เว็บสโตร์ เพื่อให้บริการผู้ประกอบการที่ขายสินค้าและบริการออนไลน์ เพียงราคาเดือนละ 60-300 ริงกิต หรือ 600-3,000 บาท ซึ่งรวมถึงค่าดูแลรักษาระบบแล้ว แทนที่จะต้องเสียเงินพัฒนาเว็บสโตร์ของตัวเอง ซึ่งต้องลงทุนเพิ่ม 6,000-7,000 ริงกิต หรือประมาณ 6-7 หมื่นบาท ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชันการแนะนำอัจฉริยะ หรือ "สมาร์ทเรคคอมเมนเดอร์" เพื่อช่วยจดจำพฤติกรรมการเลือกสินค้าของผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการทราบแนวโน้มในการทำธุรกิจได้อีกด้วย

ขณะทื่นายฌอน เตียว ประธานบริษัทไดโนมีเดีย กล่าวว่าเพียงแค่ไตรมาสแรกของปีนี้ มาเลเซียมีมูลค่าค่าโฆษณาสูงถึง 2,700 ล้านริงกิต หรือเกือบ 30,000 ล้านบาท สะท้อนถึงแนวโน้มที่สดใสของธุรกิจออนไลน์

ส่วน นายกี เกี๊ยะ ยู และ นายเปตรี คาร์ชาไลเนน สองผู้ก่อร่วมก่อตั้งบริษัทไอที "บัซบัดส์" ในปีนังกล่าวว่า ขณะนี้พวกเขาก็กำลังพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้บริการการซื้อขายผลิตภัณฑ์จากทั่วโลก ผู้ประกอบการที่สนใจจะลงสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์ของดังกล่าว สามารถใช้งานได้ฟรี ทว่ารายไหนสนใจอยากซื้อระบบเว็บไซต์ไปใช้ บริษัทเสนอราคาเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยคาดว่าเว็บไซต์ดังกล่าวต้องใช้เวลาพัฒนาอีก 6 เดือนถึง 1 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก:

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/asean-plus/20140701/590793/แอพมือถือหนุนอีคอมเมิร์ซมาเลย์รุ่ง.html