โดยปรกติเมื่อเราต้องการเปิดร้านค้าเพื่อขายสินค้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทใดก็ตาม เจ้าของร้านส่วนใหญ่จะทำการตกแต่ง ปรับปรุงสภาพร้านให้สวยงาม น่าสนใจ และเมื่อทำการตกแต่งร้านค้าเป็นที่เรียบร้อย เจ้าของร้านก็จะเริ่มนำสินค้าเข้ามาจัดเรียงภายในร้าน โดยก่อนที่จะนำสินค้าเข้าร้านนั้น ทางเจ้าของต้องมีการนำตู้ ชั้นวาง หรือแท่นโชว์สินค้า มาวางภายในร้านในตำแหน่งที่ต้องการเสียก่อน คงไม่มีเจ้าของร้านท่านใดที่ต้องการกองสินค้าไว้รวมๆกัน และให้ลูกค้าเป็นผู้ค้นหาสินค้าด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นเมื่อจัดวางตู้หรือชั้นในตำแหน่งที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อย จึงจะนำสินค้าเข้ามาจัดเรียง โดยแยกชนิด หรือประเภทของสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการเลือกชม

     ซึ่งการเปิดร้านค้าบนโลกออนไลน์ เมื่อเจ้าของร้านค้าออนไลน์ต้องการนำสินค้ามาแสดงบนเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ทางเจ้าของร้านค้าจะต้องมีการเตรียมตู้หรือชั้นเพื่อนำสินค้ามาจัดเรียง แต่ในร้านค้าออนไลน์ตู้หรือชั้นดังกล่าวจะมาในรูปแบบของหมวดสินค้า หรือเมนูสินค้านั้นเอง

โดยการเตรียมหมวดสินค้า ระบบร้านค้าออนไลน์จะเปิดโอกาสให้ทางเจ้าของร้านสามารถสร้างหมวดสินค้าหลัก และเพิ่มหมวดสินค้าย่อยภายใต้หมวดสินค้าหลักได้ หากเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจง่าย หมวดสินค้าหลักเปรียบเสมือนตัวตู้ และหมวดสินค้าย่อยเปรียบเสมือนลิ้นชักของตู้นั่นเอง โดยหมวดสินค้าหลัก (ตัวตู้) เจ้าของร้านค้าออนไลน์อาจจะกำหนดไว้ว่าเป็นตู้ที่จะใส่เฉพาะเสื้อ โดยมีหมวดสินค้าย่อย (ลิ้นชัก) ไว้แยกรูปแบบของเสื้อที่ต้องการให้ลูกค้าเลือกชม เช่น มีหมวดสินค้าย่อยที่ 1 ไว้แสดงเสื้อแขนยาว, หมวดสินค้าย่อยที่ 2  ไว้แสดงเสื้อแขนสั้น เป็นต้น ทำให้เจ้าของร้านค้าออนไลน์ต้องทำการเพิ่มเติมตัวตู้ หรือลิ้นชักภายในร้านค้าออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาสินค้าภายในร้านค้า

        ดังนั้นเจ้าของร้านค้าต้องทำการจัดประเภทสินค้า หรือหมวดหมู่ของสินค้าที่ต้องการนำเสนอ หากลูกค้าต้องการเข้าชมสินค้าในประเภทที่ต้องการ ลูกค้าจะได้คลิกเข้าชมที่หมวดสินค้านั้นๆ ได้โดยตรง ไม่ต้องตามหาให้ยุ่งยาก จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายในการเลือกรับชมสินค้าภายในร้านค้าออนไลน์ของท่าน ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายและเกิดโอกาสในการขายได้มากขึ้นอีกด้วย